ความหมาย Cloud Computing
Cloud Computing หมายถึง
ทรัพยากรสำหรับการประมวลผลที่จัดเตรียมและจัดการโดยบุคคลหรือองค์กรที่สาม (Third
Party) โดยทรัพยากรเหล่านี้ถูกจัดเตรียมไว้ที่ Data
Center จากนั้น
ผู้ใช้ของ Cloud Computing สามารถเข้าไปใช้งานทรัพยากรเหล่านี้โดยการซื้อ(หรือเช่า)ได้ตามที่ต้องการโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องคำนึง(หรือแม้แต่กังวล)เลยว่าทางผู้ให้บริการทรัพยากรจะบริหารทรัพยากรให้มีความสามารถขยายตัวด้วยวิธีอะไร
(หรือว่าได้หรือไม่ เพราะยังไงก็ต้องทำให้ได้)
ดังนั้น Cloud computing คือ วิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้
โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบ Cloud Computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้องการผู้ใช้
ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร
รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา
โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบเลยว่าการทำงานหรือเหตุการณ์เบื้องหลังเป็นเช่นไร
หน้าตาของ Cloud Computing
ภาพที่เห็นนี้เป็น server ผู้ให้บริการเพื่อให้สามารถให้บริการ
Client ได้ทั่วโลกพร้อมๆกัน โดย Cloud Computing
นั้นมีหลักการคือจะมี Client กับ Serverโดยในฝั่ง Server จะมีหน้าที่ในการประมวลผลคำสั่งต่างๆที่ถูกร้องของจาก Client โดยการทำงานง่ายๆก็คือ
เพียงแค่ใช้ internet browser ในการทำงาน ก็เรียกใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใด
Private (Internal)
Cloud ที่ใช้ภายในองค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้นผู้ใช้อาจดูแลอุปกรณ์ไอทีด้วยตนเอง
หรือจ้างบุคคลที่สามดูแลให้ก็ได้ อุปกรณ์อาจติดตั้งในสถานที่ของผู้ใช้
หรืออยู่ภายนอกทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้
Community
Cloud ที่ใช้ร่วมกันระหว่างกลุ่มขององค์กรที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน
เป็นการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีร่วมกันเฉพาะในกลุ่มสมาชิกที่มีเรื่องต้องปฏิบัติ
หรือต้องกังวลคล้ายกัน เช่นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยการใช้ข้อมูล มีข้อต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัฐ
หรือขององค์กรเหมือนกัน
Cloud ที่ให้บริการกับบุคคลทั่วๆ ไปใครก็ตามที่มี Internet จะสามารถใช้บริการได้
เป็นการใช้บริการคลาวด์ร่วมกับสาธารณะชน องค์กรทั่วไป และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่
ผู้ให้บริการเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไอทีและระบบซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
การเอา Cloud ชนิดต่างๆ มาเชื่อมต่อกันสร้างเป็น Cloud ที่มีคุณลักษณะพิเศษเช่น Private - Public Cloud
เป็นการใช้บริการที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์ส่วนตัวคลาวด์ชุมชน
หรือคลาวด์สาธารณะ ผู้ให้บริการแต่ละราย ที่ให้บริการภายใต้คลาวลูกผสมนี้
ต่างทำงานแบบอิสระ ระบบคราวด์ไม่ว่าจะเชื่อมโยงด้วยเทคนิคที่เป็นมาตรฐาน
หรือเทคโนโลยีเฉพาะ จะต้องสามารถทำงานร่วมกันในระดับข้อมูลและระบบซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้
ส่วนประกอบของ Cloud Computing
๑.) ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ ( User
interaction interface) ทำหน้าที่รับคำขอบริการจากผู้ใช้
๒.) ส่วนจัดเก็บรายการบริการ (Services
Catalog) ทำหน้าที่เก็บและบริหารรายการของบริการที่ผู้ใช้ต้องการดู
๓.)ส่วนบริหารงาน (system
management) ทำหน้าที่ในการกำหนดทรัพยากรที่เหมาะสมเมื่อมีผู้ใช้เรียกใช้บริการ
๔.) ส่วนจัดหาทรัพยากร (provisioning
services) ก็ตรงตามตัวเลยว่า จัดหา จัดเตรียม
เพื่อจองทรัพยากรต่าง ๆ แล้ว
ส่งให้ผู้ที่เรียกใช้ต่อไป
๕.) ส่วนตรวจสอบข้อมูลการใช้งาน (Monitoring
and Metering) เพื่อใช้ในการเก็บค่าบริการหรือเก็บข้อมูลสถิติ
ต่างๆเพื่อนำไปใช้ในส่วนอื่นๆ
SkyDrive จาก Microsoft
Google Drive จาก Google
iCloud จาก Apple
Dropbox
ข้อดีข้อเสียของ Cloud computing
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
๑.) ลด
ต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษาเนื่องจากค่าบริการได้รวมค่าใช้จ่ายตามที่ใช้งาน จริง
เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าซ่อมแซม ค่าลิขสิทธิ์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
ค่าอัพเกรด และค่าเช่าคู่สาย เป็นต้น
๒.) ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นหรือทดลองโครงการ
๓.) มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มหรือลดระบบตามความต้องการ
๔.) ได้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพ มีระบบสำรองข้อมูลที่ดี
มีเครือข่ายความเร็วสูง
๕.) มีผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบและพร้อมให้บริการช่วยเหลือ ๒๔ ชั่วโมง
|
๑.) เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทำให้อาจมีปัญหาในเรื่องของ
ความต่อเนื่องและความเร็วในการเข้าทรัพยากรมากกว่าการใช้บริการ Host ที่ Local หรืออยู่ภายในองค์การของเราเอง
๒.) ยังไม่มีการรับประกันในการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบและความปลอดภัยของข้อมูล
๓.) ความไม่มีมาตรฐานของแพลทฟอร์ม
ทำให้ลูกค้ามีข้อจำกัดสำหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือติดตั้งระบบ
|
แหล่งที่มา
http://www.compspot.net/index.php?option=com_content&task=view&id=360&Itemid=46
http://ictandservices.blogspot.com/2012/05/cloud-computing.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น